Last updated: 4 ธ.ค. 2568 | 13 จำนวนผู้เข้าชม |
เคยเป็นไหมค่ะ? ซื้อสกินแคร์ราคาแพงมาประโคมผิวเท่าไหร่ หน้าก็ยังดูหมองคล้ำ ไม่สดใสสักที หรือบางครั้งจับผิวหน้าแล้วรู้สึกสากๆ ไม่เรียบเนียนเหมือนแต่ก่อน
ถ้าคุณกำลังเจอปัญหานี้ อย่าเพิ่งโทษว่าครีมที่ใช้ไม่ดีนะครับ เพราะสาเหตุที่แท้จริงอาจเกิดจาก "เซลล์ผิวเก่า" ที่ตายแล้วเกาะแน่นอยู่บนผิวหน้า จนครีมบำรุงซึมลงไปไม่ได้ต่างหาก!
วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับฮีโร่กู้ผิวใสที่ชื่อว่า AHA ตัวช่วยสำคัญที่จะมาปลดล็อกผิวหมอง ให้กลับมาโกลว์ใสอีกครั้งค่ะ
AHA คืออะไร?
AHA ย่อมาจาก Alpha Hydroxy Acid หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ "กรดผลไม้" ครับ เป็นสารสกัดที่ได้มาจากธรรมชาติ เช่น อ้อย นมเปรี้ยว หรือผลไม้ตระกูลส้ม
หน้าที่หลักของ AHA เปรียบเสมือน "คนเก็บกวาด" ประจำผิวหน้าครับ ปกติผิวเราจะมีกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ (Turnover) แต่พออายุมากขึ้น หรือเจอสภาวะแวดล้อมแย่ๆ กระบวนการนี้จะช้าลง ทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วทับถมกันเป็นชั้นหนา (ขี้ไคล) ทำให้หน้าหมองและอุดตันง่าย
AHA จะเข้าไปทำหน้าที่ละลาย "กาว" ที่ยึดเกาะเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้คลายตัวออก ทำให้เซลล์เหล่านั้นหลุดลอกออกไปอย่างอ่อนโยน โดยที่เราไม่ต้องไปขัดถูหน้าแรงๆ ให้ระคายเคืองค่ะ
4 เหตุผลที่รูทีนผิวของคุณ "ขาด AHA ไม่ได้"
ทำไมแพทย์ผิวหนังถึงแนะนำให้ใช้ AHA? นี่คือประโยชน์ 4 ข้อที่คุณจะได้รับค่ะ
1. เผยผิวใหม่ที่โกลว์ใส (Instant Glow)
เมื่อเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำหลุดออกไป ผิวใหม่ที่สดใสกว่าก็จะเผยออกมาแทนที่ ทำให้หน้าดูสว่างกระจ่างใสขึ้นทันทีหลังใช้ไประยะหนึ่ง ใครที่มีปัญหาหน้าหมองเหมือนโดนของ ตัวนี้คือทางแก้ตรงจุดค่ะ
2. ลดเลือนรอยสิวและจุดด่างดำ
AHA มีส่วนช่วยเร่งกระบวนการผลัดเม็ดสีที่ผิดปกติ (เช่น รอยดำจากสิว หรือฝ้ากระตื้นๆ) ให้จางลงได้ไวกว่าการทาไวท์เทนนิ่งเพียงอย่างเดียว
3. ผิวเนียนนุ่ม รูขุมขนดูกระชับ
ใครที่มีปัญหาผิวสาก กร้าน จับแล้วไม่ลื่นมือ AHA จะช่วยปรับพื้นผิว (Texture) ให้เรียบเนียนขึ้น ลดความหยาบกร้าน และช่วยลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันในระยะยาวได้ด้วย
4. ช่วยให้สกินแคร์ตัวอื่นทำงานได้เต็มที่ (Booster)
ข้อนี้สำคัญมาก! เปรียบเหมือนการเปิดประตูบ้านครับ เมื่อไม่มีกำแพงเซลล์ผิวเก่ามาขวางทาง เซรั่มหรือครีมบำรุงราคาแพงที่คุณทาตามลงไป ก็จะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ลึกขึ้นและทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เลือก AHA แบบไหนดี? (Types of AHA)
แม้จะชื่อว่า AHA เหมือนกัน แต่ก็มีหลายประเภทที่เหมาะกับสภาพผิวต่างกันค่ะ
Glycolic Acid (กรดไกลโคลิก): ตัวแม่แห่งวงการ โมเลกุลเล็กที่สุด ซึมลึกที่สุด เห็นผลเรื่องความกระจ่างใสและริ้วรอยได้ไวที่สุด แต่ก็อาจระคายเคืองง่ายที่สุดเช่นกัน
Lactic Acid (กรดแลคติก): สกัดจากนม อ่อนโยนกว่า Glycolic และมีจุดเด่นคือช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ด้วย เหมาะกับคนผิวแห้ง
Mandelic Acid (กรดแมนเดลิก): สกัดจากอัลมอนด์ โมเลกุลใหญ่ ซึมช้า จึงระคายเคืองน้อยที่สุด เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายและคนที่เป็นสิว
วิธีใช้ AHA ให้หน้าปัง ไม่พัง!
การใช้กรดผลไม้ต้องมีความระมัดระวังนิดนึงครับ เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคือง:
ใช้เฉพาะตอนกลางคืน: เพราะช่วงที่ผลัดผิว ผิวเราจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น
เริ่มทีละน้อย: มือใหม่แนะนำให้เริ่มจากความเข้มข้นต่ำๆ และใช้แค่ 2-3 วัน/สัปดาห์ ดูก่อนว่าผิวไหวไหม
ความชุ่มชื้นต้องถึง: หลังใช้ AHA ควรตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อปลอบประโลมผิว
กันแดดคือ "กฎเหล็ก": สำคัญที่สุด! การผลัดเซลล์ผิวทำให้ผิวบางลงชั่วคราว คุณ ต้อง ทาครีมกันแดดที่มี SPF เพียงพอทุกเช้า ไม่อย่างนั้นหน้าอาจจะดำกว่าเดิมได้ครับ
มองหาตัวช่วยที่ "ครบ" จบในขั้นตอนเดียว?
ถ้าคุณรู้สึกว่าการหา AHA มาใช้คู่กับมอยส์เจอไรเซอร์มันยุ่งยาก หรือกลัวว่าจะเลือกสัดส่วนไม่ถูก เราขอแนะนำทางลัดที่จะช่วยกู้ผิวหน้าให้กลับมาสดใส เปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์อีกครั้งในขั้นตอนเดียว

ขอแนะนำ: Moisture Boost (มอยเจอร์บูสท์)
นวัตกรรมครีมบำรุงผิวที่คิดค้นมาเพื่อต่อต้านริ้วรอยร่องลึกและยกกระชับใบหน้าโดยเฉพาะ พร้อมคืนความกระจ่างใสด้วยการผสมผสาน Vitamin E & AHA เข้าด้วยกัน ช่วยส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ให้ผิวดูโกลว์ใสเป็นธรรมชาติ โดยที่ยังคงความชุ่มชื้นไว้สูงสุด
ทำไม Moisture Boost ถึงเป็นคำตอบ? เพราะเราอัดแน่นด้วยส่วนผสมระดับพรีเมียมนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อการบำรุงที่ล้ำลึกกว่า:
สารสกัดจากสาหร่ายหิมะแดง (Red Snow Algae): จากเทือกเขาแอลป์ สวิตเซอร์แลนด์ ตรงเข้าซ่อมแซมผิวระดับลึก และช่วยยับยั้งการถูกทำลายของคอลลาเจน
Dermcom (สารสกัดจากดอกโครคัส): ตัวช่วยสำคัญในการบูสต์คอลลาเจนและอิลาสติน กระตุ้น Growth Factors ให้ผิวหน้าดูเด้ง เปล่งปลั่งสดใส
Pentapeptide-4: ส่วนผสมทรงประสิทธิภาพที่ทำงานคล้าย BOTOX ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึกและรอยเหี่ยวย่นให้ดูจางลง
Isomerate: มอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นที่ช่วย "ล็อก" น้ำในชั้นผิวได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง พร้อมคุณสมบัติช่วยรักษาสิวและลดการอักเสบ
Moisture Boost จึงไม่ใช่แค่ครีมลดริ้วรอย แต่คือการรวมพลังของการ "ผลัดผิวใส" ด้วย AHA และการ "เติมน้ำให้ผิว" แบบจัดเต็ม ไว้ในกระปุกเดียว เพื่อผิวที่ดูเด็ก สว่างใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริงครับ
การใช้ AHA คือทางลัดสู่ผิวใสที่ทำได้เองง่ายๆ ที่บ้านครับ เพียงแค่เพิ่มขั้นตอนนี้เข้าไปในรูทีน หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้คุณเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวที่เรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้นอย่างแน่นอน
ใครที่กำลังลังเล ลองเปิดใจให้ AHA ดูนะครับ แล้วคุณจะหลงรักผิวใหม่ของตัวเอง!