มารู้จัก “โรค IBS” หรือโรคลำไส้แปรปรวน

Last updated: 18 ก.พ. 2567  |  119 จำนวนผู้เข้าชม  | 

มารู้จัก “โรค IBS”  หรือโรคลำไส้แปรปรวน

            โรค IBS คือ โรคลำไส้ที่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง แน่นท้อง ไม่สบายท้อง และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ท้องผูก ท้องเสีย หรือท้องผูกสลับกับท้องเสีย โรคนี้เกิดจากการบีบตัวของลำไส้ผิดปกติ ร่วมกับระบบการรับความรู้สึกเจ็บปวดของไส้มีความไวมากกว่าปกติ โรคนี้ไม่มีอันตราย แต่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้ป่วยได้

             ลำไส้แปรปรวน เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง แน่นท้อง ไม่สบายท้อง และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ท้องผูก ท้องเสีย หรือท้องผูกสลับกับท้องเสีย  สาเหตุของโรคนี้ยังไม่แน่ชัด แต่มีหลายปัจจัยที่เป็นตัวการหรือตัวกระตุ้นให้เกิดอาการ ได้แก่

-          การบีบตัวของลำไส้ผิดปกติ ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวเร็วหรือช้าเกินไป
-          การรับรู้ของระบบทางเดินอาหารที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ ทำให้รู้สึกปวดหรือไม่สบายท้องง่าย
-          ปัญหาในการย่อยอาหาร ทำให้เกิดแก๊ส หรือการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียในลำไส้
-          การติดเชื้อในทางเดินอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุลำไส้
-          ปัญหาทางด้านจิตใจและอารมณ์ เช่น ความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือประสบเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ
-          การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยารักษาอาการซึมเศร้า หรือยาที่มีส่วนประกอบของซอร์บิทอล (Sorbitol)
-          กรรมพันธุ์ ในครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นโรคลำไส้แปรปรวน จะมีแนวโน้มในการเกิดโรคนี้ได้มากกว่า


            โรคลำไส้แปรปรวน เป็นโรคที่ทำให้ลำไส้ทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดอาการท้องอืด ปวดท้อง และท้องผูกหรือท้องเสีย การเลือกอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคนี้จะช่วยลดอาการและปรับปรุงการทำงานของลำไส้ได้ อาหารที่ควรเลือกในกรณีของโรคลำไส้แปรปรวนมีดังนี้                   

-           อาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืชเต็มเมล็ด จะช่วยให้ขับถ่ายได้ดีขึ้นและป้องกันอาการท้องผูก แต่หากมีอาการท้องอืดจากการรับประทานไฟเบอร์จากธัญพืชมากเกินไป ควรเน้นผักและผลไม้แทน

-           อาหารที่มีไฟเบอร์ต่ำ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสีย ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากเกินไป เพราะอาจทำให้อาการท้องเสียรุนแรงขึ้น ควรรับประทานอาหารที่มีใยอาหารที่ละลายน้ำ เช่น แอปเปิล เบอร์รี แครอท หรือข้าวโอ๊ต

-           อาหารไขมันต่ำ อาหารที่มีไขมันสูงจะมีปริมาณไฟเบอร์ต่ำ ซึ่งเป็นอาหารที่ทำให้อาการของโรคลำไส้แปรปรวนรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสียและท้องผูกรวมกัน ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำจะช่วยให้ลำไส้สามารถทำงานได้ดีขึ้น ผู้ป่วยควรรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมัน ผัก ผลไม้ ธัญพืช และผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ

-           อาหารปลอดกลูเตน กลูเตนคือโปรตีนที่พบในผลิตภัณฑ์จากธัญพืช เช่น ขนมปัง พาสต้า หรือเบียร์ ผู้ป่วยที่มีอาการแพ้หรือไวต่อกลูเตนอาจมีอาการของโรคลำไส้แปรปรวนร่วมด้วย ดังนั้น การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลูเตน เช่น ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ และข้าวสาลี อาจช่วยลดอาการที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินอาหาร โดยรับประทานควินัว ข้าวโอ๊ต หรือบักวีต ซึ่งเป็นธัญพืชปลอดกลูเตนแทน


น้ำว่านหางจระเข้ สมุนไพรไทยที่ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดในผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวน

           ว่านหางจระเข้ เป็นพืชที่มีสรรพคุณต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาแผล ลดน้ำตาลในเลือด ล้างพิษ แก้ปวดศีรษะ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวน ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ลำไส้ทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง ปวดท้อง และท้องผูกหรือท้องเสีย โดยการศึกษาจากนักวิทยาศาสตร์ชาวอิหร่าน ได้พบว่า การดื่มน้ำว่านหางจระเข้ 50 มิลลิลิตร ก่อนออกเดินทาง สามารถลดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียนได้มากกว่าการดื่มน้ำเปล่า ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากการเมารถเมาเรือ นอกจากนี้ ส่วนวุ้นของว่านหางจระเข้ยังมีส่วนช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้ลำไส้ แก้ปัญหาท้องผูกในผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนได้ ซึ่งเมื่อระบบขับถ่ายของคนไข้เริ่มดีขึ้น อาการท้องอืด แน่นท้องที่เกิดเพราะลำไส้แปรปรวนก็จะลดน้อยลงตามลำดับ

           นอกจากการศึกษาจากนักวิทยาศาสตร์ชาวอิหร่านแล้ว ยังมีการศึกษาจากนักวิทยาศาสตร์ชาวอินเดีย ที่เกี่ยวข้องกับว่านหางจระเข้และโรคลำไส้แปรปรวน โดยการศึกษานี้เป็นการทดลองกับผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวน 40 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่รับประทานวุ้นว่านหางจระเข้ 30 กรัม ก่อนอาหารเช้าและก่อนนอน และกลุ่มที่ไม่รับประทานวุ้นว่านหางจระเข้ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่รับประทานวุ้นว่านหางจระเข้มีการขับถ่ายที่ดีขึ้น และอาการท้องอืด แน่นท้อง และปวดท้องลดลงมากกว่ากลุ่มที่ไม่รับประทานวุ้นว่านหางจระเข้

           จากการศึกษาทั้งสองการศึกษาที่กล่าวมาข้างต้น สามารถสรุปได้ว่า น้ำว่านหางจระเข้ และวุ้นว่านหางจระเข้ มีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องอืดในผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนได้ดี และยังช่วยปรับปรุงการทำงานของลำไส้ให้ดีขึ้น ดังนั้น ผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนสามารถนำน้ำว่านหางจระเข้ หรือวุ้นว่านหางจระเข้มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษา

 

น้ำว่านหางจระเข้ แบรนด์เฮ็ลธ์ฟู้ดส์ ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาบาเดนซิลมิลล์ เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ผ่านการปลูกแบบพิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปอกเปลือกไปจนถึงการบรรจุลงขวด เพื่อให้ได้น้ำว่านหางจระเข้ที่สดใหม่ อันแน่นด้วยคุณค่าของว่านหางจระเข้ ทั้งไม่ใส่สารกันบูด ไม่ใส่สี ไม่ผสมน้ำผลไม้ ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย น้ำว่านหางจระเข้ แบรนด์เฮ็ลธ์ฟู้ดส์ บรรจุในขวดแก้ว พกพาง่าย ดื่มแล้วสดชื่น ดีต่อสุขภาพ เสมือนได้ทานน้ำว่านหางจระเข้สดๆ จากธรรมชาติ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้